Cting มีความหลงใหลในงานสร้างสรรค์ตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย โดยเธอได้รับเกรด A ในวิชาศิลปะจากการสอบ HKCEE ต่อมาเธอได้ศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยโพลีเทคนิคฮ่องกง สาขาบริการและสิ่งทอ (Service and Textile) โดยเลือกเรียนเอกด้านการค้าปลีกและเลือกเรียนเสริมด้านการออกแบบ ในปี 2005 เธอได้รับรางวัลชนะเลิศจากการแข่งขันออกแบบโปสเตอร์ระดับเมือง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางอาชีพด้านการออกแบบของเธอ
หลังจากสำเร็จการศึกษา Cting ได้ทำงานเป็นครูสอนศิลปะพาร์ทไทม์ ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์ให้กับนักเรียน ต่อมาเธอได้พัฒนาความรู้ด้านศิลปะเพิ่มเติม โดยสำเร็จหลักสูตรประกาศนียบัตรด้านศิลปะบำบัดจากมหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง และศึกษาต่อระดับปริญญาโทด้านวัฒนธรรมศึกษา (Cultural Studies) โดยมุ่งเน้นศิลปะการแสดงที่มหาวิทยาลัยหลิงหนาน
ด้วยประสบการณ์กว่า 10 ปีในอุตสาหกรรมสื่อ Cting ได้มีบทบาทสำคัญในด้านเนื้อหาโทรทัศน์และโพสต์โปรดักชันภาพยนตร์ เธอเป็นผู้ดูแลโครงการโลคัลไลเซชันให้กับ IP ระดับโลกหลายรายการในฮ่องกง เช่น Detective Conan และ Jujutsu Kaisen นอกจากนี้ เธอยังมีบทบาทเป็นผู้กำกับเสียงให้กับผลงานดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles, Sonic 3, The Smurfs และ If
ปัจจุบัน Cting มีบทบาทอย่างเต็มที่ในอุตสาหกรรม IP โดยผสมผสานความสามารถด้านศิลปะเข้ากับความคิดสร้างสรรค์ในสื่อเพื่อพัฒนาเนื้อหา IP ในปี 2024 เธอจะร่วมมือกับ The Conservancy Association จัดนิทรรศการเดี่ยวครั้งแรก ซึ่งจะประกอบด้วยการออกแบบเสื้อยืดร่วมกับแบรนด์ Mil Mill, เวิร์กช็อปศิลปะ 6 ครั้ง, การแสดงหุ่นเชิด 2 รอบ, แอนิเมชันสต็อปโมชั่น 5 เรื่อง และเพลงต้นฉบับ 1 เพลง นิทรรศการนี้จะเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าในด้านการออกแบบ การผลิต และการประยุกต์ใช้ผลงาน
มองไปข้างหน้า Cting มีแผนจะร่วมมือกับ The Conservancy Association อีกครั้งเพื่อเปิดตัวหนังสือภาพ IP ในปี 2025 โดยเนื้อหาจะเน้นไปที่มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ภายใต้คำแนะนำจากที่ปรึกษาระดับปริญญาเอก โครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2025 พร้อมจัดกิจกรรมออฟไลน์เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมที่ไม่เป็นรูปธรรมแก่คนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ Cting กำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ลิขสิทธิ์ เช่น ตุ๊กตา พวงกุญแจ และกล่องสุ่ม (Blind Box) โดยเธอรอคอยโอกาสในการขยายผลงานสร้างสรรค์ของเธอด้วยความตื่นเต้นและมุ่งมั่น
ตัวละครหลักของ IP นี้ "BoBo.D.Planet" ได้รับแรงบันดาลใจจาก BoBo สุนัขแสนรักของ Cting ที่อยู่เคียงข้างเธอมานานถึง 18 ปี ชื่อนี้มีความหมายว่า “สิ่งล้ำค่าของฉัน”
ในช่วงวัยรุ่นของ Cting เธอมักจะใช้เวลาวาดภาพจนดึกดื่น โดยมี BoBo นั่งเฝ้าอยู่ข้างๆ อย่างเงียบๆ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดการออกแบบตัวละครนี้ หลังจากสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เธอพบว่าตัวเองขาดแรงบันดาลใจสำหรับโปรเจกต์สร้างสรรค์ใหม่ๆ แต่ BoBo ยังคงเป็นเพื่อนที่คอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอ
อย่างไรก็ตาม หลังจากฉลองวันเกิดปีแรกของลูกน้อยเพียงหนึ่งวัน BoBo ก็จากไป ทำให้ Cting รู้สึกสูญเสียอย่างสุดซึ้ง ท่ามกลางความโศกเศร้า เธอได้เปลี่ยนความคิดถึงให้กลายเป็นพลังสร้างสรรค์ โดยหวังว่าตัวละคร BoBo จะสามารถเป็นเพื่อนร่วมทางของเด็กๆ และช่วยเยียวยาหัวใจของพวกเขาได้เช่นเดียวกัน
ความหมายของ BoBo และ MoMo
ชื่อ BoBo มาจากชื่อเล่นตัวหนึ่งของเธอ ซึ่งสะท้อนถึงขนสีทองอันงดงาม BoBo เป็นสุนัขลูกผสมระหว่าง Yorkshire Terrier และ Chihuahua ขนยาว ซึ่ง Cting ได้เก็บรายละเอียดความสวยงามของขนสีทอง หูสีชมพูอ่อน และดวงตากลมโตสีดำเอาไว้ นอกจากนี้ เธอยังใส่เอกลักษณ์พิเศษ—จุดขนรูปหัวใจสีครีมบนจมูก—เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ให้ Golden Babyถ่ายทอดความอบอุ่นผ่านความน่ารักของเธอ
MoMo เป็นคู่หูขนปุยสีขาว ซึ่งได้แรงบันดาลใจจาก Little White สุนัขอีกตัวของ Cting ตัวละครนี้มีรูปร่างกลมอวบและดวงตาสีดำแวววาว ออกแบบมาโดยผสมผสานความน่ารักของสัตว์เลี้ยงทั้งสองตัวเข้าไว้ในเรื่องราว
การออกแบบตัวละครสำหรับแอนิเมชันซีรีส์นี้ผ่านการปรับแก้ไขมากกว่าสิบครั้ง โดยเป็นงานฝีมือที่ทำขึ้นอย่างประณีต ขนของ MoMo ถูกนำมาจาก Little White ผ่านกระบวนการทำความสะอาดอย่างละเอียด ก่อนนำมาผสมเข้ากับดินเบาเพื่อสร้างโมเดลตัวละคร ซึ่งใช้เวลากว่า หกเดือน ในการปรับแต่งเฉดสีและสัดส่วนให้ลงตัวที่สุด
ตัวละครอื่นๆ และแนวคิดเบื้องหลัง IP
นอกจาก BoBo และ MoMo แล้ว IP นี้ยังมีตัวละครอื่นๆ ที่น่าสนใจ เช่น
-Captain Purple Cat MEOW
-Civil Engineer WATER
-Guardian POKE
ซึ่งแต่ละตัวละครได้รับแรงบันดาลใจจาก ธาตุทั้งห้าของจีน พร้อมสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงอันมีชีวิตชีวา และแนวคิดเกี่ยวกับ “การรักตนเอง ผู้อื่น ธรรมชาติ โลก คนรุ่นหลัง และความทรงจำอันล้ำค่า”
เป้าหมายของทีม
ทีมของเรามุ่งมั่นที่จะสร้าง IP ที่มีเอกลักษณ์ ยืดหยุ่น และอยู่ได้นาน ซึ่งสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกวัย โดยเฉพาะในกลุ่มตลาดครอบครัวและเด็ก เรื่องราวของ BoBo ไม่เพียงเป็นการรำลึกถึงอดีต แต่ยังเป็นแสงสว่างแห่งความหวังในอนาคต
เราหวังว่าผ่านตัวละครที่เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์เหล่านี้ เราจะสามารถส่งต่อ พลังแห่งความรักและความอบอุ่น ไปยังผู้คน สร้างความเชื่อมโยงในสังคม และส่งเสริมความสุขให้กับทุกคนที่ได้สัมผัสกับเรื่องราวของ BoBo.D.Planet